QUOTE 

4 สิ่ง ที่ต้องทำให้ได้ ถ้าอยากขายดี บน facebook.com

เจ้าของร้าน

4 สิ่ง ที่ต้องทำให้ได้
ถ้าอยากขายดี

1. ทำให้คนรู้จักเยอะๆ
2. ทำให้คนรักและไว้ใจ
3. ขายอย่างมีมารยาท
4. ทำให้ลูกค้าสะดวก

ผมคิดยังไงกับการขายของบนเฟซบุ๊ค

1. ผู้ซื้อต้องการอะไรจากผู้ขาย

เราหยุดขายของกันสักพักดีไหมครับ แล้วมาดูกันว่าอะไรที่น่าจะมีส่วนทำให้เราขายดีบนเฟซบุ๊ค ผมเองต้องออกตัวก่อนนะครับว่าไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญอะไร เพียงแต่มีความสนใจในการทำมาค้าขายบนเฟซบุ๊คเท่านั้นเองครับ

การที่ใครบางคนกำลังหาซื้ออะไรบางอย่าง ผมมองว่าใครคนนั้นต้องมีปัญหาในบางเรื่องแน่นอนครับ ที่หาซื้อสินค้าก็เพื่อแก้ปัญหาให้กับตัวเอง เบื้องต้นเลยสินค้าต้องตอบโจทย์ คือแก้ปัญหาได้จริงๆ ถ้าสินค้าไม่ดีจริงยังไงก็ไม่เกิดครับ

แต่เท่าที่ผมเฝ้าดูอยู่ทุกวัน หลายคนไม่ประสบความสำเร็จในการนำเสนอสินค้าครับ เพราะออกแนวยัดเยียด ไม่ดูกาลเทศะ ขาดมารยาท รบกวนผู้อื่นจนน่ารำคาญ ทำให้ผู้คนเบื่อหน่าย ข้อมูลสินค้าจึงกลายเป็นขยะแทบไม่มีใครสนใจ

แล้วถ้านำเสนอสินค้าเป็นล่ะ จะประสบความสำเร็จในการขายของบนเฟซบุ๊คมั้ย ผมมองว่ายังครับ คนจะซื้อสินค้ากับผู้ขายที่น่าไว้ใจ ไม่ใช่แค่น่าเชื่อถือ เพราะผู้ซื้อต้องการที่พึ่งระยะยาว จึงต้องเลือกคนที่ไว้ใจได้และไม่หายไปไหน

ผมมองว่าสินค้าที่ตรงกับความต้องการและตอบโจทย์ เป็นเพียงสิ่งพื้นฐานครับ สิ่งที่สำคัญกว่าคือความไว้ใจกับความสะดวก ผู้ขายสำคัญกว่าสินค้านั่นเองครับ ต้องไว้ใจได้และให้บริการอย่างเป็นเลิศ ให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีกลับไป

2. ทำยังไงให้คนเห็นเยอะๆ

ข้อนี้ ถ้าเรามองภาพรวมของเฟซบุ๊คออก เราจะมองเห็นภาพครับว่าในแต่ละวันผู้คนจะเห็นข้อมูลของเราเยอะๆได้ยังไง มันเป็นเรื่องของการแพร่กระจายข้อมูลบนเฟซบุ๊คครับ มีทั้งแบบธรรมชาติและซื้อโฆษณากับเฟซบุ๊คโดยตรง

แบบธรรมชาติเกิดจากการที่ผู้คน ถูกใจ, แสดงความคิดเห็น, แชร์ หรือแท็กตัวเองใส่โพสต์ของเรา ทำให้โพสต์ของเราแพร่กระจายไปในฟีดข่าวเพื่อนๆของเขา จึงต้องรู้ว่าโพสต์อะไรคนจึงจะไลค์/เม้นท์/แชร์/แท็ก และเราจะได้ขายของยังไง

เมื่อมีคนมาไลค์/เม้นท์/แชร์/แท็กโพสต์ของเรา หมายถึงเขากำลังส่งต่อไปยังเพื่อนๆของเขาทั้งวง จะทำให้เพื่อนของเขาบางส่วนเห็นโพสต์ของเรา มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ไลค์/เม้นท์/แชร์/แท็กต่อจากเขา โพสต์ก็จะถูกส่งต่อๆกันไปแบบนี้ครับ

ถ้าทุกครั้งที่มีคนไลค์/เม้นท์/แชร์/แท็กโพสต์ของเรา ทำให้เพื่อนๆของเขาไลค์/เม้นท์/แชร์/แท็กต่ออีก 10 คน จำนวนคนที่ส่งต่อโพสต์ของเราก็จะเป็นดังนี้ครับ

1 x 10 = 10
10 x 10 = 100
100 x 10 = 1,000
1,000 x 10 = 10,000
10,000 x 10 = 100,000

โพสต์ของผมหลายโพสต์มีคนเห็นเป็นล้าน หลักแสนก็เยอะ ส่วนหลักหมื่นจะค่อนข้างธรรมดามากครับ ตัวเลขเหล่านี้ผมไม่ได้มโนนะครับ เพราะเฟซบุ๊คมีส่วนวิเคราะห์ข้อมูลอย่างละเอียดให้เราใช้ฟรีๆครับ

ส่วนการซื้อโฆษณากับเฟซบุ๊คเป็นวิธีการทำให้คนเห็นข้อมูลสินค้าได้เยอะและรวดเร็วทันใจครับ แต่อย่าเพิ่งซื้อโฆษณาถ้าร้านของเรายังไม่พร้อม หากข้อมูลยังไม่ครบและเข้าใจยาก ขืนซื้อโฆษณาไปอาจเสียเงินฟรีได้ครับ

3. เปิดร้านอย่างไรให้ดูน่าเชื่อถือ

ในยุคที่เราใช้เว็บไซต์ เราจะเตรียมข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับธุรกิจให้ครบถ้วนสมบูรณ์รอบด้านก่อน แล้วค่อยเปิดตัว คือทำเว็บไซต์ให้เสร็จก่อนนั่นเอง เพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ เพียงแค่ดูเมนูหลักของเว็บไซต์ผู้เยี่ยมชมก็จะเห็นภาพรวมของธุรกิจ

แต่พอเรามาเปิดร้านบนเฟซบุ๊ค หลายคนรู้ว่าต้องสร้างเพจ แต่หลงลืมเรื่องพื้นฐานเหล่านี้ไป หลายเพจไม่มีรายละเอียดอะไรเลยนอกจากเบอร์มือถือและ LINE ID พื้นฐานที่สุดเลยเราต้องมีข้อมูลต่อไปนี้ครับ

- เกี่ยวกับเรา
- สินค้าทั้งหมด
- รีวิวจากลูกค้า
- วิธีสั่งซื้อสินค้า
- บทความน่ารู้
- ติดต่อเรา

นี่คือภาพรวมของธุรกิจ เป็นข้อมูลที่เราใช้ตั้งรับเหมือนกับในยุคที่เราใช้เว็บไซต์ เมื่อมีผู้สนใจแวะเข้ามาที่เพจของเรา เขาจะรื้อดูข้อมูลเหล่านี้เพื่อศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม เราต้องเตรียมข้อมูลให้พร้อมแบบจัดเต็ม เอาให้หายสงสัยเลย

ดังนั้น เราต้องรู้ว่าจะเก็บข้อมูลอันมากมายมหาศาลไว้ส่วนไหนของเพจ และจะทำให้ผู้เยี่ยมชมเพจมองเห็นภาพรวมนี้ได้อย่างไร โดยต้องเข้าใจง่ายและต้องแสดงในทุกอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็น PC, Notebook, iPad รวมทั้งมือถือด้วย

ผู้คนต้องเข้าถึงเพจเราได้เพียงแค่ใช้นิ้วไถมือถือเล่น ผมเองจะเน้นตรงนี้เป็นพิเศษครับ เพราะผู้ใช้เฟซบุ๊คส่วนใหญ่ใช้งานผ่านมือถือ แม้แต่คนส่วนน้อยที่ใช้เฟซบุ๊คผ่าน PC หรือ Notebook ก็ยังใช้ผ่านมือถือด้วยเช่นกัน

ที่เล่ามานี้เป็นการใช้เพจแทนเว็บไซต์อย่างสมบูรณ์นั่นเองครับ เพราะเพจมีข้อได้เปรียบเว็บไซต์หลายประการ จะแพ้ก็เรื่องการทำให้ผู้เยี่ยมชมมองเห็นภาพรวมของธุรกิจนี่แหละครับ แต่มีวิธีแก้ที่ใครๆก็ทำได้ครับ แต่ต้องมีคนพาทำเพราะมีรายละเอียดพอสมควร

หลายท่านติดตั้งแอพต่างๆที่เป็นประโยชน์ไว้บนเพจ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีครับ จะเป็นแบบใช้งานฟรีหรือมีค่าใช้จ่ายนิดหน่อยก็ไม่น่าซีเรียสครับ แต่มีประเด็นที่ควรคำนึงถึงสักเล็กน้อยดังนี้ครับ

- การบริหารจัดการยุ่งยากหรือไม่ ต้องพึ่งใครไหม
- แสดงผลในทุกอุปกรณ์หรือเปล่า หรือดูได้เฉพาะบน PC กับ Notebook
- ข้อมูลบนแอพที่เราแปะไว้บนเพจกระจายไปในฟีดข่าวของผู้ใช้เฟซบุ๊คได้หรือไม่ หรือสามารถเปิดดูได้เฉยๆเหมือนดูเว็บไซต์
- ผู้เยี่ยมชมเพจสามารถคลิกเปิดดูแอพได้เลยมั้ย หรือมีเงื่อนไขที่ต้องยินยอม

เรารู้ว่าการเปิดร้านบนเฟซบุ๊คต้องใช้เพจเป็นร้านค้า เพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้วใช่ไหม สำหรับผมแล้วขอตอบว่ายังไม่พอครับ ยังมีอะไรที่ต้องทำมากกว่านี้ ต้องทำให้เพจของเรามีความเป็นแบรนด์อย่างชัดเจนครับ ไม่ใช่แค่ร้านค้า

4. แบรนด์คืออะไร ทำไมต้องสร้างแบรนด์

แบรนด์คือตราสินค้าหรือเรียกอีกอย่างว่ายี่ห้อ ผมมองว่าไม่ควรให้เพจของเราเป็นเพียงร้านค้าครับ จำเป็นต้องสร้างแบรนด์ ส่วนจะเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ แบรนด์องค์กร แบรนด์บุคคล หรือแบรนด์ประเภทใดนั้น ขึ้นอยู่กับว่าเราทำอะไร

ลองคิดดูว่าถ้าแบรนด์ของเราดัง ตัวแทนจำหน่ายจะวิ่งเข้าหาไหม สินค้าแบรนด์ดังขายดีหรือเปล่า ขายได้ราคาไหม ต้องลดราคาแข่งกับแบรนด์ที่ไม่ดังหรือเปล่า ถ้าร้านค้านำไปขายจะถูกวางในตำแหน่งดีๆไหม ถ้าขายได้มากก็สั่งผลิตมากทำให้ต้นทุนต่อหน่วยลดลง แสดงว่าได้กำไรเพิ่มขึ้นใช่ไหม ฯลฯ มีเหตุผลอื่นๆอีกมากมายที่ทำให้เราต้องสร้างแบรนด์ครับ

การสร้างแบรนด์ไม่ใช่การสร้างภาพ แต่เป็นการสร้างตัวตนของตราสินค้าให้ชัดเจน โดดเด่น และไม่เหมือนใคร ทั้งในส่วนที่อ่านออกเสียงได้ซึ่งก็คือชื่อ และส่วนที่อ่านออกเสียงไม่ได้แต่จดจำได้ เช่น รูปแบบ, สี, เสียงที่ได้ยิน, โลโก้ ฯลฯ

แบรนด์ที่เรากำลังจะสร้าง ก็เหมือนคนคนนึงที่ยังไม่มีใครรู้จัก เราจับมาแต่งตัวให้มีบุคลิกที่ชัดเจน มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร แล้วให้คนคนนี้ออกไปคบค้าสมาคมกับผู้คนในสังคม ออกไปให้คนรู้จักเยอะๆ ไปทำให้คนรักชอบศรัทธา ให้คนคนนี้ออกไปสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเขาเอง

ไปแสดงออกให้ชัดเจน ว่าคนคนนี้ชื่ออะไร เป็นคนยังไง ทั้ง บุคลิก พฤติกรรม นิสัยใจคอ กิริยามารยาท ความรู้ความสามารถ มีจุดยืนยังไง ทำอะไรได้บ้าง สังคมได้ประโยชน์อะไรจากคนคนนี้ บ้านช่องอยู่ไหน คบได้มั้ย ฯลฯ

การสร้างแบรนด์บนเฟซบุ๊คเป็นการจับคนคนนี้มาใส่ไว้บนเฟซบุ๊ค โดยใช้เพจ (Facebook Page) เป็นร่างกายของคนคนนี้ การแต่งตัวให้คนคนนี้มีบุคลิกที่ชัดเจนและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร จึงหมายถึงการแต่งเพจ

การแต่งตัวที่ว่านี้ หมายถึงการวางส่วนประกอบของแบรนด์ เช่น โลโก้, ชื่อแบรนด์, ข้อมูลรายละเอียดของแบรนด์ ฯลฯ ไว้ในส่วนต่างๆของเพจ ดังนั้น เจ้าของแบรนด์ต้องรู้ว่า ส่วนประกอบของเพจมีอะไรบ้าง แต่ละส่วนทำหน้าที่อะไร แล้ววางส่วนประกอบของแบรนด์ไว้ในส่วนต่างๆของเพจให้ถูกต้อง

ถ้าวางไม่ถูก ผู้คนจะดูไม่รู้เรื่องว่าเป็นแบรนด์อะไร คือไม่รู้จักนั่นเอง และถ้าวางไม่ชัด ผู้คนจะจดจำแบรนด์ไม่ได้ เรื่องนี้สำคัญมากครับ เพราะถึงแม้จะมีคนเห็นวันละมากมายขนาดไหน ถ้าคนไม่รู้จักและคนจำไม่ได้ ถือว่าเสียเที่ยวครับ

เพจต้องมีข้อมูลรายละเอียดของแบรนด์ที่ครบถ้วน สมบูรณ์ รอบด้าน เหมือนกับเว็บไซต์ทั่วไปที่เรารู้จัก เมนูหลักของเว็บไซต์ทั่วไปจะทำให้ผู้เยี่ยมชมมองเห็นภาพรวมของแบรนด์นั้นๆ และสามารถเข้าถึงรายละเอียดของแบรนด์ได้อย่างง่ายดายในทันที

ดังนั้น เราต้องแต่งเพจเพื่อใช้แทนเว็บไซต์ โดยการวางข้อมูลรายละเอียดของแบรนด์ไว้ในโครงสร้างพื้นฐานของเพจ เพื่อให้แสดงผลในทุกอุปกรณ์ รวมทั้งมือถือด้วย เพราะคนส่วนใหญ่ใช้เฟซบุ๊คผ่านมือถือ แม้แต่คนส่วนน้อยที่ใช้เฟซบุ๊คผ่าน PC หรือ Notebook ก็ยังใช้ผ่านมือถือด้วยเช่นกัน

จากนั้นก็ประยุกต์ใช้โครงสร้างพื้นฐานของเพจให้เป็นเมนูหลักคล้ายๆเว็บไซต์ทั่วไป เพื่อให้ผู้เยี่ยมชมเข้าใจง่าย สามารถมองเห็นภาพรวมของแบรนด์ได้ในทันทีว่ามีอะไรบ้าง และเมื่อผู้เยี่ยมชมคลิกเมนูหลักอย่างง่ายที่ว่านี้ ก็จะลิงค์ไปยังข้อมูลรายละเอียดของแบรนด์ที่เราได้วางเอาไว้แล้ว

วิธีการแต่งเพจแบบนี้ ใครๆ ก็ทำได้ครับ เพียงแต่ต้องมีคนพาทำ เพราะมีรายละเอียดพอสมควร ผมจึงขอแนะนำคอร์สพิเศษ “สร้างแบรนด์บนเฟซบุ๊คแบบมืออาชีพ” (Professional Branding on Facebook)

แสดงความคิดเห็นที่ 0-0 จากทั้งหมด 0 ความคิดเห็น

หมวดหมู่

แนะนำการสอบราชการ [2]
แจกแนวข้อสอบ [7]

ระบบสมาชิก

สถิติร้านค้า

หน้าที่เข้าชม2,112,142 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด1,481,485 ครั้ง
เปิดร้าน30 ก.ค. 2557
ร้านค้าอัพเดท22 ต.ค. 2568

ติดต่อเรา

084-4283086
พูดคุย-สอบถาม