คำแนะนำในการสอบกรมอุตุนิยมวิทยา
กรมอุตุนิยมวิทยา (Meteorological Department of Thailand) เป็นหน่วยงานของรัฐบาล ระดับกรม สังกัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ทำหน้าที่ในการพยากรณ์อากาศ รายงานปรากฏการณ์ธรรมชาติต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว ความสูงของคลื่น รายงานพยากรณ์อากาศประจำวันและพยากรณ์อากาศในช่วงเวลาที่กำลังจะมาถึง รวมทั้งออกประกาศเตือนต่างๆ
การเข้าทำงานในตำแหน่งนักอุตุนิยมวิทยาของกรมอุตินิยมวิทยาจะมีอยู่ 2 กรณีคือ
1. การสอบบรรจุเข้ารับราชการ
2.การสอบเข้าเป็นนักเรียนอุตุนิยมวิทยา สำหรับผู้ที่จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย สายวิทยาศาสตร์ หรือเทียบเท่าและมีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตรในชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.4-ม.6) ไม่ต่ํากว่า 2.50 เมื่อเรียนจบมีโอกาสบรรจุรับราชการ
สำหรับผู้ที่มิได้จบทางด้านอุตุนิยมวิทยาโดยตรง เมื่อสามารถทำการสอบผ่านการคัดเลือกและได้รับการบรรจุแล้ว จะต้องอบรมหลักสูตรวิชาอุตุนิยมวิทยาอีก 6 เดือน ซึ่งหลักสูตรประกอบด้วยการเรียนรู้อุตุนิยมวิทยาเบื้องต้น จนถึงการประยุกต์ใช้งาน เมื่อสำเร็จการอบรมแล้ว จึงจะไปปฏิบัติงานได้ในฐานะนักอุตุนิยมวิทยา ซึ่งจะได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติงานตามหน้าที่ความรับผิดชอบของสำนัก หรือส่วนที่สังกัด
ผู้ที่สนใจในอาชีพนี้ ควรเตรียมความพร้อมดังนี้
-ผู้ที่จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย สายวิทยาศาสตร์ หรือเทียบเท่า แล้วเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา ระดับปริญญาตรี คณะวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาอุตุนิยมวิทยาคณิตศาสตร์ หรือฟิสิกส์ หรือคณะวิศวกรรมศาสตร์ ทุกสาขา
-สำหรับผู้ที่จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย สายวิทยาศาสตร์ หรือเทียบเท่า ที่มีความสนใจในเรื่องของดินฟ้าอากาศ และต้องการเป็นเจ้าหน้าที่อุตุนิยมวิทยา สามารถสอบคัดเลือกเข้าเป็นเจ้าหน้าที่ของกรมอุตุนิยมวิทยาได้และมีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตรในชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.4-ม.6) ไม่ต่ํากว่า 2.50 เมื่อกรมฯ เปิดรับสมัครเจ้าหน้าที่ในตำแหน่งดังกล่าว โดยจะได้รับการอบรมหลักสูตรประกาศนียบัตรอุตุนิยมวิทยาเป็นเวลา 1 ปี ซึ่งหลักสูตรจะประกอบด้วยภาคทฤษฎี 6 เดือน และภาคปฏิบัติ 6 เดือน
ในการสอบเข้ากรมอุตุนิยมวิทยา การสอบบรรจุเข้ารับราชการผู้เข้าสอบจะต้องเป็นผู้สอบผ่านการวัดความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก.) ของสำนักงาน ก.พ. ก่อน แต่ถ้าสอบเป็นพนักงานราชการไม่ต้องใช้ใบสอบผ่านภาค ก ของ ก.พ. การสอบเข้ากรมอุตุนิยมวิทยา จะมีการประเมินสมรรถนะอยู่ 2 ครั้ง คือ ครั้งที่ 1 โดยการสอบข้อเขียน ครั้งที่ 2 โดยการสัมภาษณ์ และจะต้องผ่านการประเมินสมรรถนะครั้งที่ 1 โดยวิธีการสอบข้อเขียนก่อนและเมื่อผ่านการประเมินสรรถนะครั้งที่ 1 แล้ว จึงจะมีสิทธิ์เข้ารับการประเมินสมรรถนะครั้งที่ 2 โดยวิธีสอบสัมภาษณ์ ทั้งนี้จะต้องได้คะแนนสอบข้อเขียนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60
หน้าที่เข้าชม | 2,110,789 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,480,132 ครั้ง |
เปิดร้าน | 30 ก.ค. 2557 |
ร้านค้าอัพเดท | 6 ก.ย. 2568 |