
แนวข้อสอบนักบัญชีปฏิบัติการ ภาค ข. ของทุกหน่วยงาน |
วิชาความรู้ทั่วไป
1. ภาษีมูลค่าเพิ่มเริ่มใช้ในประเทศไทยในปี พ.ศ. ใด
ก. 2530 ข. 2532
ค. 2535 ง. 2538
ตอบ ค.
2. บริษัทแห่งหนึ่งมีภาษีซื้อเดือน ม.ค. 2553 จำนวน 20,500 บาท ภาษีขาย 9,500 บาท บริษัทเสีภาษีมูลค่าเพิ่มเท่าใด
ก. 11,000 บาท ข. 9,500 บาท
ค. 10,500 บาท ง. ได้คืน 11,000 บาท
ตอบ ง. การเสียภาษีมูลค่าเพิ่มของผู้ประกอบการจดทะเบียน จะเสียภาษีโดยวิธีการคำนวณ ภาษีขาย - ภาษีซื้อ ถ้าภาษีซื้อมากกว่าภาษีขาย ผู้ประกอบการจดทะเบียนมีสืทธิได้รับภาษีคืน (9,500 – 20,500 = 11,000 ดังนั้นบริษัทจึงมีสิทธิได้รับภาษี 11,000 บาท)
3. การเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในเดือนหนึ่ง ๆ จะต้องชำระภาษีภายในเวลาใด
ก. ภายในวันที่ 3 ของเดือนถัดไป ข. ภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไป
ค. ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป ง. ภายในวันที่ 21 ของเดือนถัดไป
ตอบ ค. การเสียภาษีมูลค่าเพิ่มนั้น ต้องชำระภาษีภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป
4. ภาษีมูลค่าเพิ่มมีกี่อัตรา
ก. 1 ข. 2
ค. 3 ง. 4
ตอบ ก. อัตราภาษีมูลค่าเพิ่มในปัจจุบันมีเพียง 2 อัตราเท่านั้น คือ อัตราร้องละ 7 และอัตราร้อยละ 0
5. กิจการใดได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม
ก. การขายไฟฟ้า ข. การขายปุ๋ย
ค. การขายน้ำผลไม้บรรจุกระป๋อง ง. การขายกระดาษ
ตอบ ข. การขายปุ๋ย เป็นกิจการที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามประมวลรัษฎากร มาตรา 81
6. ใบเพิ่มหนี้ใช้ในกรณีใด
ก. คำนวณราคาต่ำกว่าความเป็นจริง ข. ส่งสินค้าไปน้อยกว่าความเป็นจริง
ค. คุณภาพสินค้าต่ำกว่าความเป็นจริง ง. ไม่มีข้อใดถูกต้อง
ตอบ ก. “ใบเพิ่มหนี้” จะออกได้เมื่อ
1. มีการเพิ่มราคาสินค้าที่ขายเนื่องจากสินค้ามีจำนวนมากกว่าที่ตกลงกัน ทำให้คำนวณราคาสินค้าต่ำกว่าที่เป็นจริง
2. มีการเพิ่มราคาค่าบริการ เนื่องจากให้บริการเกินกว่าข้อกำหนดที่ตกลงกัน หรือคำนวณราคาผิดพลาดต่ำกว่าที่เป็นจริง
7. ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเต็มรูปแบบรายหนึ่ง ขายสินค้าราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้วราคา 2,140 บาท ภาษีมูลค่าเพิ่มมีค่าเท่าใด
ก. 293,000 บาท ข. 319,000 บาท
ค. 269,000 บาท ง. 343,000 บาท
ตอบ ก. วิธีการคำนวณหาภาษีมูลค่าเพิ่ม
ราคาสินค้าที่ขาย 107 บาท ภาษีมูลค่าเพิ่ม = 7 บาท
ถ้าราคาสินค้าที่ขาย 2,140 จะเป็นภาษีมูลค่าเพิ่ม = บาท
= 140 บาท
8. ใบลดหนี้ใช้ในกรณีใด
ก. คุณภาพของสินค้าสูงกว่าความเป็นจริง
ข. จำนวนที่ให้บริการน้อยกว่าที่ตกลงกัน
ค. จำนวนสินค้ามากกว่าที่ตกลงกัน
ง. ไม่มีข้อใดถูกต้อง
ตอบ ข. “ใบลดหนี้” จะใช้ในกรณีที่มีการลดราคาสินค้าที่ขาย เพราะคำนวณราคาสินค้าผิดพลาดสูงกว่าที่เป็นจริง หรือมีการลดราคาค่าบริการ เนื่องจากการให้บริการผิด ข้อกำหนดหรือบริการขาดจำนวนหรือได้รับสินค้าที่ขายกลับคืนเนื่องจากสินค้าชำรุดบกพร่อง
9. ตามนัยแห่งพระราชบัญญัติศุลกากร “ของนำเข้าพร้อมกับตน” หมายถึง
ก. ของใช้ส่วนตัวทุกชนิดได้แก่ เครื่องแต่งกาย ยารักษาโรค อาวุธปืน
ข. ของที่นำเข้าประเทศขณะที่ผู้นำเข้าเดินทางกลับจากต่างประเทศ
ค. ของที่เข้ามาก่อนผู้นำเข้ามาถึงประเทศไทย 1 เดือน หรือของที่เข้ามายังประเทศไทย หลังจากผู้นำเข้ามาถึงประเทศไทย แล้ว 6 เดือน
ง. ของที่ผู้นำเข้าได้แจ้งแก่ศุลกากรล่วงหน้าว่าจะมาถึงประเทศไทยภายในเวลา 6 เดือน
ตอบ ค. คำว่า “นำเข้าพร้อมกับตน” ให้หมายถึง ของที่เข้ามาถึงประเทศไทยไม่เกิน 1 เดือนก่อนที่ผู้นำข้าวของเข้ามาถึง หรือไม่เกิน 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ผู้นำเข้ามาถึงแล้ว
10. “ความสำเร็จในการนำเข้า” ทางเรือ คือ
ก. เมื่อเรือมาถึงท่าทอดเรือภายนอกและเจ้าหน้าที่ศุลกากรเข้าไปตรวจสอบสินค้าที่มากับเรือและ ลงนามรับรอง
ข. เมื่อเปิดระวางเรือและขนสินค้าขึ้นท่าเรือเรียบร้อยแล้ว
ค. เมื่อสินค้านั้นเสียอากรขาเข้าเรียบร้อยแล้ว
ง. เมื่อผู้นำเข้าหรือตัวแทนมารับสินค้าที่ท่าเรือ
ตอบ ก. โดยปกติความสำเร็จในการนำเข้าทางเรือให้นับตั้งแต่เวลาที่เรือซึ่งนำของเข้าได้ผ่านเขตท่าเข้ามาแล้ว หรือถ้าไม่มีปัญหาการโต้แย้งกันก็ให้ถือว่าการนำเข้าสำเร็จ นับตั้งแต่เวลาที่นายเรือได้รายงานเรือเข้า หรือในทางปฏิบัติอาจจะถือว่าการนำเข้าสำเร็จตาม (ก) ก็ได้
11. “ความสำเร็จในการนำออก” ทางเรือเกิดขึ้นเมื่อใด
ก. เมื่อผู้ส่งออกปฏิบัติพิธีการศุลกากรและบรรทุกของลงเรือเรียบร้อยแล้ว
ข. เมื่อเรือบรรทุกสินค้าออกจากท่าเรือที่บรรทุกสินค้า
ค. เมื่อเรือสินค้าออกพ้นท่าเรือศุลกากรท่าสุดท้ายของราชอาณาจักรไทย
ง. เมื่อสินค้านั้นได้ถ่ายลำเรือจากเรือเล็กไปยังเรือเดินสมุทร
ตอบ ค. การส่งออก (ทางเรือ) เป็นอันสำเร็จตั้งแต่ขณะที่เรือซึ่งส่งของออกได้ออกจากเขตท่า ซึ่งได้ออกเรือเป็นขั้นที่สุด (เขตท่าสุดท้าย) เพื่อไปจากราชอาณาจักร
12. “เวลาที่เกิดความรับผิดในอันที่จะต้องเสียภาษี” สำหรับของที่นำเข้าคือเวลาใด
ก. เวลาที่เรือซึ่งนำสินค้าเข้ามาในเขตท่าที่จะถ่ายของออกจากเรือ
ข. เวลาที่นำเข้าสำเร็จ
ค. เวลาที่ผู้นำเข้าต้องการไปรับสินค้า ออกจากท่าเรือหรือท่าอากาศยาน
ง. ภายในระยะเวลาสองเดือนนับจากวันที่ผู้นำเข้าทราบว่าสินค้ามาถึงประเทศไทยแล้ว
ตอบ ข. ความรับผิดในอันจะต้องเสียค่าภาษีสำหรับของที่นำเข้าเกิดขึ้นในเวลาที่นำของเข้าสำเร็จ (เวลาที่เรือเข้ามาในเขตท่าที่ถ่ายออกจากเรือ)
13. สินค้าที่ฝากไว้ในคลังสินค้าทัณฑ์บนจะกลายเป็นของตกค้างเมื่อฝากสินค้าไว้นานเท่าไร
ก. สองเดือนกับสิบห้าวัน ข. หกเดือนกับสิบห้าวัน
ค. หนึ่งปีกับเจ็ดวัน ง. สองปีกับอีกห้าวัน
ตอบ ค. ของที่เก็บไว้ในคลังสินค้าทัณฑ์บนนั้น จะอนุญาตให้เก็บไว้ได้นานถึง 1 ปี ถ้าหากเจ้าของสินค้ายังไม่นำของออกไป ก็จะให้เวลาอีก 7 วัน ถ้าพ้นกำหนด 7 วันแล้วยังไม่มานำของออก ของนั้นก็ถือว่าเป็นของตกค้าง
14. สินค้าที่สั่งเข้ามาจากต่างประเทศและฝากไว้ในคลังฝากสินค้าทัณฑ์บนจะต้องเสียภาษีขาเข้าในอัตราใด
ก. อัตราภาษีในวันนำเข้าสำเร็จและต้องนำของออกไปทั้งหมด
ข. อัตราภาษีในวันที่นำของออกจากคลังสินค้าตามจำนวนที่นำออกไปแต่ละครั้ง
ค. จะต้องเสียภาษีขาเข้าตามราคา C.I.F
ง. จะต้องเสียภาษีขาเข้าตามราคา F.O.B
ตอบ ข. การเสียภาษีขาเข้าสำหรับสิ่งของที่นำเข้าเก็บในคลังสินค้าทัณฑ์บน ให้ใช้อัตราอากร ซึ่งเป็นที่อยู่ในวันที่ได้ขนออกจากคลังสินค้าทัณฑ์บน
15. การนำเข้าหรือส่งออกสินค้าระหว่างประเทศ จะต้องชำระภาษีอย่างไร
ก. ชำระค่าภาษีด้วยเงินสด
ข. ชำระค่าภาษีด้วยบัตรภาษี
| หน้าที่เข้าชม | 2,112,142 ครั้ง |
| ผู้ชมทั้งหมด | 1,481,485 ครั้ง |
| เปิดร้าน | 30 ก.ค. 2557 |
| ร้านค้าอัพเดท | 22 ต.ค. 2568 |
ศูนย์รวมหนังสือสอบราชการ