QUOTE 

ข้อสอบนิติกร 3 ของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง)

เจ้าของร้าน

ข้อสอบนิติกร 3 ของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง)

   
 
 

แนวข้อสอบกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

 

1.ในการใช้กฎหมายนั้นจะต้องในบรรดากรณี ซึ่งต้องด้วยบทบัญญัติใดๆ แห่งกฎหมายตามตัวอักษรหรือตามความมุ่งหมายของบัญญัตินั้นๆ แต่หากในกรณีที่ไม่มีบทกำหนดที่จะยกมาปรับแก่คดีได้ เพื่อประกอบการพิจารณาและวินิจฉัยให้คดีนั้นเสร็จไปได้ จะต้องนำหลักการใดมาใช้เป็นลำดับแรก

 

                ก. ให้วินิจฉัยนั้นตามจารีตประเพณีแห่งท้องถิ่น

 

                ข. ให้วินิจฉัยคดีอาศัยเทียบบทกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่ง

 

                ค. ให้วินิจฉัยตามหลักกฎหมายทั่วไป

 

                ง. นำหลักการใดมาใช้ก่อนหลังก็ได้

 

คำตอบ :  ข้อ ก. เพราะเมื่อไม่มีบทกฎหมายที่จะยกปรับคดีได้ ให้วินิจฉัยคดีนั้นตามจารีตประเพณีแห่งท้องถิ่น ถ้าไม่มีจารีตประเพณีเช่นว่านั้น ให้วินิจฉัยคดีอาศัยเทียบบทกฎหมายที่ใกล้เคียงยิ่ง และถ้าบทกฎหมายเช่นนั้นก็ไม่มีด้วยให้วินิจฉัยตามหลักกฎหมายทั่วไป (ตาม ป. พ.พ. มาตรา 4)

 

2. ในกรณีที่บุคคลใดได้พิมพ์ลายนิ้วมือ แทนการลงลายมือชื่อ จะต้องทำอย่างไรจึงจะทำอย่างไรจึงจะทำให้การพิมพ์ลายนิ้วมือนั้นใช้แทนการละลายมือชื่อในเอกสารได้

 

                ก. มีพยานลงลายมือชื่อรับเองหนึ่งคน

 

                ข. มีพยานลงลายมือชื่อรับเองสองคน

 

                ค.ไม่จำเป็นต้องมีพยานแก้ใช้แทน ลายมือชื่อได้

 

                ง. นำหนังสือนั้นไปให้นายอำเภอรับรอง

 

คำตอบ :  ข้อ ข. ลายพิมพ์นิ้วมือ แกงใด ตราประทับ หรือเครื่องหมายอื่นทำนองเช่น ว่านั้น ที่ทำลงในเอกสารแทนการลงลายมือชื่อ หากมีพยานลงลายมือชื่อรับรองไว้แล้วสองคนแล้วให้ถือเสมอกับลงลายมือชื่อ (ตาม ป.พ.พ. มาตรา 9)

 

3. บุคคลย่อมพ้นจากภาวะผู้เยาว์ และบรรลุนิติภาวะเมื่อมีอายุเท่าใด

 

                ก.  อายุ  17  ปี                                                                          ข. อายุ  18  ปี

 

                ค.อายุ  19  ปี                                                                            ง. อายุ  20  ปี

 

คำตอบ :  ข้อ  ง. บุคคลย่อมพ้นจากภาวะผู้เยาว์ ปละบรรลุนิติภาวะ เมื่อมีอายุ  20 ปีบนิบูรณ์  แต่อาจบรรลุนิติภาวะได้ด้วยการสมรส

 

4. หากผู้เยาว์ทำนิติกรรม โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรม ผลของนิติกรรมนั้นเป็นเช่นไร

 

                ก. เป็นโมฆะ                                                                          

 

                ข. เป็นโมฆียะ

 

                ค. บังคับได้เฉพาะผู้เยาว์เท่านั้น                                            

 

                ง. นิติกรรมนั้นก็ยังสมบูรณ์

 

คำตอบ :  ข้อ  ข. เนื่องจากผู้เยาว์จะทำนิติกรรมใดๆ ต้องได้รับความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรมก่อน การใดๆที่ผู้เยาว์ได้ทำลงปราศจากความยินยอมเช่นนั้นเป็นโมฆียะ เว้นแต่จะบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น (ตาม ป.พ.พ. มาตรา  21)

 

5. การกระทำใดที่ผู้เสมือนไร้ความสามารถ ไม่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากผู้พิทักษ์ก่อนก็สามารถทำได้

 

                ก. นำทรัพย์สินไปลงทุน

 

                ข. กู้ยืมหรือให้กู้ยืมเงิน

 

                ค. บริจาคเงิน ซึ่งพอควรแก่ฐานานุรูป

 

                ง. ให้เช่าสังหาริมทรัพย์ในระยะเวลาเกิน  1 ปี

 

คำตอบ :  ข้อ ค. เพราะ คนเสมือนไร้ความสามารถนั้นต้องได้รับความยินยอมของผู้พิทักษ์ก่อนแล้วจึงจะทำการอย่างใดอย่างหนึ่งได้ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 34

 

6. นายจันทร์ ได้ไปเที่ยวจังหวัดภูเก็ต และได้หายสาบสูญไปจากเหตุคลื่นยักษ์สึนามิ ทายาทนายจันทร์จะร้องขอต่อศาลให้นายจันทร์เป็นคนสาบสูญ เพื่อที่จะได้ดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์มรดกได้ภายในระยะเท่าไหร่นับแต่นายจันทร์หายไป

 

                ก. ภายในระยะเวลา หนึ่ง ปี

 

                ข. ภายในระยะเวลา  สอง ปี

 

                ค. ภายในระยะเวลา สาม ปี

 

                ง. ภายในระยะเวลา สี่ ปี

 

คำตอบ :  ข้อ ข. ภายในระยะเวลา สอง ปี เพราะในกรณีที่เกิดสงคราม หรือพาหนะที่เดินทางอับปางหรือถูกทำร้ายหรือเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติขึ้น เป็นเหตุให้บุคคลนั้นอยู่ในอันตราย เช่นว่านั้นให้ลดระยะเวลาการร้องขอเหลือเพียงแค่ 2 ปี ( ตาม ป.พ.พ. มาตรา 61)

 

7. ข้อใดต่อไปนี้ไม่ใช้นิติบุคคล

 

                ก. ห้างหุ้นส่วนจำกัด

 

                ข. บริษัท จำกัด

 

                ค.  ห้างหุ้นส่วนสามัญ

 

                ง.  ถูกทุกข้อ

 

คำตอบ :  ข้อ ค. ห้างหุ้นส่วนสามัญ เพราะเป็นการตกลงร่วมลงทุนโดยมิได้จดทะเบียนเป็นห้างหุ้นส่วนจึงไม่มีฐานะเป็นนิติบุคคล

 

8. นิติบุคคลจะแสดงเจตนาทำนิติกรรมได้โดยวิธีใด

 

                ก.  ทำโดยนิติบุคคลเอง

 

                ข. ทำโดยตัวแทนของนิติบุคคล

 

                ค. ทำโดยลูกจ้างของนิติบุคคล

 

                ง. ถูกทุกข้อยกเว้น คำตอบข้อ ค

 

คำตอบ :  ข้อ ข. ทำโดยตัวแทนของนิติบุคคล ตาม ป.พ.พ. มาตรา 70 ความประสงค์ของนิติบุคคลย่อมแสดงออกโดยผู้แทนนิติบุคคล

 

9. นายอาทิตย์ ซึ่งเป็นตัวแทนของห้างหุ้นส่วนจำกัด ประกอบกิจการ ภัตตาคาร ได้ทำสัญญาให้นายจันทร์ กู้ยืมเงินซึ่งนอกเหนือวัตถุประสงค์ ของห้างหุ้นส่วนจำกัด เมื่อนายอาทิตย์สัญญา นายจันทร์จะฟ้องให้ใครรับผิดชอบได้บ้าง

 

                ก. ฟ้องห้างหุ้นส่วนจำกัด

 

                ข. ฟ้องนายอาทิตย์

 

                ค. ฟ้องกรรมการของห้างหุ้นส่วน

 

                ง. ฟ้องได้ทั้ง ห้างหุ้นส่วนจำกัด ,นายอาทิตย์ และกรรมการของห้างหุ้นส่วนจำกัด

 

คำตอบ :  ข้อ ข. ตาม ป.พ.พ. มาตรา  76  วรรคสอง ถ้าความเสียหายแก่บุคคลอื่นเกิดจากการกระทำที่ไม่อยู่ในขอบวัตถุประสงค์หรืออำนาจหน้าที่ของนิติบุคคล บรรดาบุคคลดังกล่าวตามวรรคหนึ่งที่ได้เห็นชอบให้กระทำการนั้นหรือได้เป็นผู้กระทำการดังกล่าว ต้องร่วมกันรับผิดชอบใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้ได้รับความเสียหายนั้น

 

10. ข้อใดต่อไปนี้ไม่ถือว่าเป็นอสังหาริมทรัพย์

 

                ก.  บ้าน

 

                ข. โรงงาน

 

                ค.ดิน ซึ่งเจ้าของที่ดินขุดเอาไปขาย

 

                ง. ถูกทุกข้อ

 

คำตอบ :  ข้อ ค. เพราะดินเมื่อขุดขึ้นมาแล้ว ไม่ถือว่าเป็นอสังหาริมทรัพย์ แต่เป็นสังหาริมทรัพย์ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 139 อสังหาริมทรัพย์ หมายความว่า ที่ดินและทรัพย์อันติดกับมีลักษณะเป็นการถาวรหรือประกอบเป็นอันเดียวกับที่ดินนั้นและหมายความรวมถึงทรัพย์สิทธิอันเกี่ยวกับที่ดินหรือทรัพย์อันติดอยู่กับที่ดินหรือประกอบเป็นอันเดียวกับที่ดินนั้นด้วย

 

11. ข้อใดต่อไปนี้ไม่ถือว่าเป็นส่วนควบของรถยนต์

 

                ก. เครื่องเสียงรถยนต์

 

                ข. ล้อรถยนต์

 

                ค. พวงมาลัยบังคับรถ

 

                ง. ประตูรถ

 

คำตอบ :  ข้อ ก. เครื่องเสียงรถยนต์ ไม่ถือว่าเป็นส่วนควบของรถเพราะถึงแม้ว่าไม่มีเครื่องเสียงรถก็สามารถขับเคลื่อนได้

 

                ก. ค่าปันผล  ขนสัตว์  ลูกวัว

 

                ข. ผลไม้  ค่าเช่า  น้ำยางพารา

 

                ค. กำไร  ลูกวัว  มะพร้าว

 

                ง. ผลไม้  ไข่ไก่  ไข่มุก

 

คำตอบ :  ข้อ   ง. เพราะ ผลไม้ ไข่ไก่  ไข่มุก เป็นดอกผลธรรมดาทั้งหมด ส่วนค่าปันผล ค่าเช่า กำไร เป็นดอกผลทางนิตินัย

 

13. การใดๆอันทำโดยชอบด้วยกฎหมายแล้วด้วยสมัครใจ มุ่งโดยตรงต่อการผู้กนิติสัมพันธ์ขึ้นระหว่างบุคคล เพื่อจะก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สาน หรือระงับ ซึ่งสิทธิถือว่าเป้นการกระทำใด

 

                ก. ละเมิด

 

                ข.  นิติกรรม

 

                ค.  การจัดการงานนอกสั่ง

 

                ง.  ประนีประนอมยอมความ

 

คำตอบ :  ข้อ ข. ตาม ป.พ.พ. มาตรา 149 นิติกรรม หมายความว่า การใดๆอันทำลงโดยชอบด้วยกฎหมายและด้วยสมัครใจ มุ่งโดยตรงต่อการผูกนิติสัมพันธ์ขึ้นระหว่างบุคคล เพื่อจะก่อเปลี่ยนแปลง โอน สาน หรือระงับ ซึ่งสิทธิ

 

14. การกระทำใดต่อไปนี้เป็น โมฆียะ

 

                ก. มิได้ทำให้ถูกต้องตามแบบบทที่กฎหมายกำหนด

 

                ข. สำคัญผิดในสิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งนิติกรรม

 

                ค.  การแสดงเจตนาเพราะถูกข่มขู่

 

                ง. การใดมีวัตถุประสงค์อันเป็นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมาย

 

คำตอบ :  ข้อ  ค. ตาม ป.พ.พ. มาตรา 164 การแสดงเจตนา เพราะถูกข่มขู่เป็น โมฆียะ

 

15. ในการตีความการแสดงเจตนานั้น กฎหมายได้กำหนดให้คำนึงถึงสิ่งใดเป็นสำคัญ

 

                ก. ตัวบุคคล

 

                ข. จำนวนเงินที่ทำ

 

                ค.  เจตนาอันแท้จริง

 

                ง.  ลักษณะของสัญญา

 

คำตอบ :  ข้อ ค. เพราะในการตีความการแสดเจตนานั้นให้เพ็งเล้งถึงเจตนาอันแท้จริงยิ่งกว่าถ้องสำนวนหรือตัวอักษร

 

 

แสดงความคิดเห็นที่ 0-0 จากทั้งหมด 0 ความคิดเห็น

หมวดหมู่

แนะนำการสอบราชการ [2]
แจกแนวข้อสอบ [7]

ระบบสมาชิก

สถิติร้านค้า

หน้าที่เข้าชม2,112,142 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด1,481,485 ครั้ง
เปิดร้าน30 ก.ค. 2557
ร้านค้าอัพเดท22 ต.ค. 2568

ติดต่อเรา

084-4283086
พูดคุย-สอบถาม