
หลายคนอยากเป็นทหารหรือตำรวจ ไม่ว่าจะน้องผู้ชายหรือน้องผู้หญิง เพราะว่า(ตามกันมา)ว่า เป็นทหารรับใช้ชาติ สวัสดิการดี ถึงเงินเดือนไม่สูง แต่ก็มีสวัดิการดูแลดี แถมดูแลเผื่อไปถึงพ่อแม่พี่น้อง และคนในครอบครัวได้เลย เป็นเกียรติยศต่อตนเอง ไม่มีตกงาน มีหน้ามีตาทางสังคม แถมถึงขั้นเป็นลูกหลานทหาร ตำรวจก็ไม่ต้องกลัวอิทธิพลอะไรด้วยถือเป็นคนมีสีเช่นเดียวกัน แต่นั่นไม่ใช่จุดสำคัญของการเป็นทหารตำรวจหรอกนะคะ เพราะการยึดถือเอาอิทธิพลที่มีเป็นใหญ่ เราก็ไม่ต่างกับคนพาลเลยค่ะ แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลข้อใด ก็ถือได้ว่าอาชีพนี้เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป ยิ่งตอนนี้พี่ทหาร พี่ตำรวจถือเป็นฮีโร่น้ำท่วมอีกด้วย ในฐานะชาวบ้านตาดำๆ ต้องขอขอบคุณในความเสียสละครั้งนี้ค่ะ
สำหรับเด็กๆ ตัวน้อย ถ้าไม่ได้อยากเป็นครู เป็นหมอ เป็นพยาบาล ก็มีอาชีพทหารนี่แหละที่เด็กๆ เลือกตอบ เพราะผมอยากรับใช้ชาติ! คนที่สนใจและรักในอาชีพนี้ ต้องพร้อมที่จะอยู่ในกฎระเบียบ ต้องยอมรับ และเข้าใจกฎอาวุโสทางยศเป็นสำคัญ ใครไม่ค่อยยอมคน คงต้องฝึกความอดทนอย่างมาก ต้องมีวินัย อีกข้อที่พี่เกียรติว่าออกจะแปลกที่จะบอก ก็คือ ต้องทนเสียงดังได้ สังคมทหารและตำรวจเป็นสังคมที่เสียงดัง ไม่ได้หมายถึงความวุ่นวาย โหวกเหวกนะคะ แต่เป็นธรรมชาติของทหารตำรวจ ซึ่งโดยปกติมีการสั่งการเป็นกองพันใหญ่ๆ ต้องใช้เสียงดัง ทั้งยังแสดงถึงความเข้มแข็งจริงจังอีกด้วยค่ะ ใครมีคุณพ่อคุณแม่เป็นทหารก็คงทราบ คุณพ่อจะเสียงดัง และการตอบคุณแม่ก็จะต้องชัดเจน ไม่อ้ำอึ้ง ตามลักษณะการปกครองแบบทหารตำรวจนี่แหละค่ะ
นอกจากนี้ พี่เกียรติเองก็ค่อนข้างเชื่อว่ายังมีน้องๆ อีกหลายคนที่สนใจอาชีพนี้ แต่ไม่ค่อยรู้ช่องทางที่จะไปประกอบอาชีพนี้ ไม่รู้ว่าต้องไปสอบอะไรที่ไหน จบชั้นอะไร ต้องไปสอบบ้าง ซึ่งพี่เกียรติก็ได้ไปรวบรวมช่องทางในการเป็นทหารมา บางปีอาจมีการเปลี่ยนแปลงบ้าง เช่น ช่วงเวลาที่เปิดรับสมัคร หรือคุณสมบัติเฉพาะของแต่ละปี แต่น้องๆ ก็จะได้เตรียมการตัวเองได้มากขึ้นค่ะ
จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
– โรงเรียนช่างฝีมือทหาร
สถาบันที่ผลิตช่างฝีมือและช่างเทคนิคที่มีที่มีความสามารถ และทันสมัย ให้กับส่วนราชการในกระทรวงกลาโหม และส่วนราชการอื่น ๆ เมื่อจบได้วุฒิประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.)
แบ่งออกเป็นภาคปกติ และภาคสมทบ
ภาคปกติ เป็นนักเรียนประจำ รับเฉพาะเพศชาย จบแล้วบรรจุราชการ
ภาคสมทบ เป็นนักเรียนไป – กลับ รับทั้งเพศหญิงและชาย
ช่วงจำหน่ายใบสมัครและรับสมัคร ช่วงเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ กำหนดการรับสมัครปี 2555 – โรงเรียนดุริยางค์ทหารเรือ คลิปแนะนำโรงเรียน น่าเรียนมากๆ
รับทั้งชาย และหญิง
ช่วงจำหน่ายใบสมัครและรับสมัคร ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม
(ตอนนี้ปิดรับนักเรียน เพื่อปรับหลักสูตร จากหลักสูตร 6 ปี รับผู้จบป.6 ไปเป็นหลักสูตร 3 ปีรับจบม.3 – ข้อมูลปี 2554)
– โรงเรียนดุริยางค์ทหารบก
รับทั้งเพศชายและหญิง
ช่วงจำหน่ายใบสมัครและรับสมัคร ช่วงเดือนมกราคม – ต้นเดือนมีนาคม
– โรงเรียนดุริยางค์ทหารอากาศ
รับทั้งเพศชายและหญิง (ตามความเหมาะสมของลักษณะเครื่องดนตรี)
ช่วงจำหน่ายใบสมัครและรับสมัคร ช่วงเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์
โดยทั่วไปแล้ว เมื่อจบหลักสูตรของโรงเรียนดุริยางค์แล้ว จะได้รับการบรรจุเข้ารับราชการ ยศจ่าตรี/สิบตรี/จ่าอากาศตรี และได้รับวุฒิบัตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ในสาขาดนตรี ซึ่งสามารถใช้การศึกษาต่อได้ และมีโอกาสสอบขึ้นเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตร
– โรงเรียนเตรียมทหาร
รับเฉพาะเพศชาย โดยจะเรียนรวมกันทั้งสี่เหล่าทัพก่อน 3 ปี เมื่อจบหลักสูตรเตรียมทหาร จะเทียบเท่า ม.6 สายวิทย์- คณิต และแยกไปเรียนตามเหล่าของตนเองหลังจากนั้น
ช่วงจำหน่ายใบสมัครและรับสมัคร ช่วงธันวาคม – มีนาคม
การสมัครโรงเรียนเตรียมทหารต้องซื้อใบสมัครและสมัครในส่วนราชการที่ต้องการบรรจุ เช่น อยากเป็นทหารอากาศ ต้องไปสมัครเป็นนักเรียนเตรียมทหารในส่วนของกองทัพอากาศ หรือสมัครที่โรงเรียนนายเรืออากาศ อยากเป็นตำรวจน้ำ ต้องสมัครของสว่นกองทัพเรือ เป็นต้น โรงเรียนนี้สอบติด เรียนจบ ได้รับราชการยศนายทหารสัญญาบัตรทันที ทั้งยังมีโอกาสก้าวหน้าสูง ด้วยเหตุนี้จึงมีชิงชัยแข่งขันจริงจัง ถึงระดับมีโรงเรียนติวสอบเข้าประเภทอยู่ประจำเลยทีเดียว
จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และ 6 หรือเทียบเท่า
– โรงเรียนจ่าอากาศ
รับเฉพาะเพศชาย
ช่วงจำหน่ายใบสมัครและรับสมัคร ช่วงเดือนพฤศจิกายน – กุมภาพันธ์
ม.3 หลักสูตร 3 ปี
ม.6 หรือเทียบเท่า หลักสูตร 2 ปี
จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
– โรงเรียนนายสิบทหารบก
รับเฉพาะเพศชาย
ช่วงจำหน่ายใบสมัครและรับสมัคร ช่วงเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ – โรงเรียนจ่าทหารเรือ
รับเฉพาะเพศชาย
ช่วงจำหน่ายใบสมัครและรับสมัคร ช่วงธันวาคม – กุมภาพันธ์
– โรงเรียนนายร้อยตำรวจหญิง
รับเฉพาะเพศหญิง
จบแล้วเทียบเท่าปริญญาตรี รับราชการตำรวจยศร้อยตำรวจตรีหญิง
ช่วงจำหน่ายใบสมัครและรับสมัคร ช่วงเดือนมกราคม
– วิทยาลัยพยาบาลทหาร (ทั้งสี่เหล่าทัพ)
รับเฉพาะเพศหญิง สายวิทยาศาสตร์ – คณิตศาสตร์
ช่วงจำหน่ายใบสมัครและรับสมัคร ช่วงเดือนมกราคม – มีนาคม
นักเรียนพยาบาลทหารก็มีสองกลุ่ม คือ กลุ่มทุนกองทัพ เมื่อจบได้รับราชการทันที และกลุ่มทุนส่วนตัว ที่จบแล้วได้เฉพาะวุฒิปริญญาตรีทางการพยาบาลเท่านั้นค่ะ ก็ต้องดูตามสิทธิ์ที่จะได้รับหลังจบในกำหนดการรับสมัครของแต่ละปีไปค่ะ
– วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า
รับทั้งเพศชายและหญิง
สมัครผ่านระบบรับตรง ของ กสพท. เหมือนการสอบเข้าแพทย์ทั่วไป แต่แบ่งออกเป็นสองส่วน คือ นักเรียนแพทย์ทหาร เฉพาะผู้ชาย จบแล้วได้บรรจุราชการทันที และส่วนนักศึกษาแพทย์ จบแล้วต้องใช้ทุนจัดสรรตามจังหวัดต่างๆ เหมือนเรียนแพทย์ทั่วไป แต่ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนแพทย์ส่วนใดก็ต้องฝึกวิชาทหาร ใส่เครื่องแบบเหมือนกันค่ะ
ช่วงจำหน่ายใบสมัครและรับสมัคร ตามประกาศของกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (กสพท.) ประมาณช่วงสิงหาคมเป็นไป
– สอบเข้ารับราชการตามอัตรากำลังที่ต้องการ เหมือนการสมัครงานทั่วไป ตามวุฒิที่กำหนด ซึ่งอาจเป็นสาขาที่หน่วยงานขาดแคลน เงินเดือนตามฐานวุฒิ ชื่อการรับสมัครจะเป็นลักษณะ “ประกาศรับสมัครสอบคัดเลือกบุคคลพลเรือน เข้ารับราชการเป็นนายทหารประทวน ประจำปี XXXX”
ช่วงจำหน่ายใบสมัครและรับสมัคร ตามปีงบประมาณ หรือตามประกาศของแต่ละภาคส่วนเอง (ส่วนมากจะประกาศรับพร้อมกลุ่มปริญญาตรี) ในส่วนนี้อาจจะไม่มีการเปิดรับสมัครนัก เนื่องจากการปรับวุฒิในการทำงานของคนทั่วไปสูงขึ้น อย่างน้อยก็ระดับปริญญาตรีแล้ว ดังนั้นหากไม่ขาดแคลนกำลังพลจริงๆ อาจไม่มีการเปิดรับค่ะ
(กองทัพภาคที่ 4 รับสมัครบุคคลพลเรือนและทหารกองหนุนเพื่อสอบคัดเลือกเป็นนายทหารประทวน – ข้อมูล ธ.ค. 54)
จบระดับปริญญาตรีขึ้นไป
– สอบเข้ารับราชการตามสาขาวิชาที่กำหนดหรือเกี่ยวข้อง เหมือนการสมัครงานทั่วไป เงินเดือนตามฐานวุฒิ
ชื่อของการรับสมัครจะเป็นในลักษณะ
“ประกาศรับสมัครสอบคัดเลือกบุคคลพลเรือน เข้ารับราชการเป็นนายทหารสัญญาบัตร ในส่วนของ ประจำปี XXXX”
“รับสมัครและสอบแข่งขันบุคคลภายนอกผู้มีวุฒิปริญญาตรี เพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการ ตำรวจชั้น… พ.ศ.XXXX”
(ตัวอย่างเว็บรับสมัครของตำรวจ)
ช่วงจำหน่ายใบสมัครและรับสมัคร ตามปีงบประมาณ หรือตามประกาศของแต่ละภาคส่วนเอง
แต่ละปี จะมีผู้สมัครสอบในลักษณะนี้จำนวนมากจริงๆ เหมือนการสอบตรงเข้าคณะ/มหาวิทยาลัยชื่อดัง เพราะเป็นช่องทางที่เปิดกว้างมากที่สุด แทบไม่จำกัดสาย ไม่จำกัดเพศ กำหนดเรื่องข้อจำกัดร่างกายน้อยที่สุด และก็เป็นช่วงที่มีทั้งเด็กจบปริญญาตรีใหม่ และคนทำงานที่อยากมารับราชการภายหลังมาสมัครสอบกันมาก
พี่เกียรตินำมาให้ดูในส่วนของช่องทาง สถาบัน และรายละเอียดบางส่วน รวมถึงกำหนดการเริ่มจำหน่ายใบสมัครโดยประมาณเท่านั้น สำหรับคุณสมบัติที่แต่ละหน่วยจะรับจะเป็นอย่างไรบ้าง ต้องสูงกี่เซนติเมตร ว่ายน้ำให้ผ่านกี่เมตร และเมื่อจบได้ยศ เงินเดือน หรือมีความก้าวหน้าอย่างไร น้องๆ ต้องคอยติดตามในกำหนดการของแต่ละปีค่ะ หรือจะไปสืบค้นกำหนดการเก่าๆ ของแต่ละหน่วยมาเป็นแนวทางก่อนก็ได้ที่สำคัญหลายหน่วย เริ่มรับสมัครทางอินเทอร์เน็ตเท่านั้นแล้วด้วยนะ
นอกจากนี้ หลายคนอาจคิดว่า ถ้าในระดับปริญญาตรีขึ้นไป ต้องจบจากคณะรัฐศาสตร์ หรือนิติศาสตร์เท่านั้น ถึงจะเหมาะกับการเป็นทหาร ตำรวจ แต่จริงๆ แล้วทั้งทหาร และตำรวจก็มีกรมกองต่างๆ ที่ต้องการผู้เชี่ยวชาญแต่ละแขนงนะ เช่น นายทหารกายภาพบำบัด นายทหารบัญชี นายทหารสังคมสงเคราะห์ ก็แบ่งไปบรรจุราชการตามเหล่าแพทย์ พลาธิการ สารวัตรทหาร ฯลฯ ดังนั้น จะจบคณะอะไรมาก็มีโอกาสรับราชการทหาร ตำรวจได้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับอัตราและวุฒิที่ทางทหารเขากำหนดมาว่าต้องการสาขาไหน กำลังขาดแคลนกำลังสายใด เป็นต้น
ดังนี้แล้ว น้องๆ คงจะเห็นว่ามีช่องทางมากพอดูที่จะเป็นทหารหรือตำรวจ แต่การแข่งขันของแต่ละส่วนก็ไม่น้อยเช่นกัน ใช่แต่ต้องฟิตความรู้เท่านั้น กำลังกายก็เป็นเรื่องสำคัญ ดูน้ำหนัก มีวัดส่วนสูง ต้องฟิตวิ่ง ฟิตว่ายน้ำ กันเป็นการใหญ่ แต่ถ้าสอบเข้าได้ก็ภาคภูมิใจกันไปทั้งวงศ์ตระกูลเลยทีเดียวเลยนะ อิอิ
หวังว่าข้อมูลจะเป็นประโยชน์จ้า ใครมุ่งหวังอยากเป็นกำลังรับใช้ชาติด้วยอาชีพนี้ ก็ต้องวางแผนนะคะ ที่สำคัญนอกจากหน้าที่ตามตำแหน่งงานแล้ว คนที่เป็นทหาร และตำรวจต้องมีช่วงเสียสละจริงๆ มีช่วงที่ต้องทำงาน เข้าเวรทั้งประจำ และเวรพิเศษ เช่น ช่วงวิกฤติของบ้านเมืองแบบนี้
ที่มา http://www.dek-d.com/
ศูนย์รวมหนังสือสอบราชการ